15 ที่เที่ยวโอซาก้าเดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟด้วยตัวคุณเอง

มาเที่ยวโอซาก้ากันเถอะ เป็นเมืองสีสันที่น่าตื่นเต้นของประเทศญี่ปุ่น และวันนี้เรามีรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอซาก้าทั้งหมด 15 แห่ง ที่คุณสามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟเอง มันหลากหลายมากเลยจะเป็นทั้งวัด สวนสนุก แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารอร่อยๆ และอื่นๆ อีกมากมาย คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าจะหลงทาง เพียงแค่ขึ้นรถไฟก็เพียงพอแล้ว

นอกจากนี้ สำหรับคนที่กำลังวางแผนการเดินทางไปเที่ยวโอซาก้าเอง ไม่ต้องกังวลเลย เพราะเรามีเพื่อนช่วยในการวางแผนและการเดินทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจองที่พัก ซื้อบัตร JR Pass จองรถเช่า หรือกิจกรรมทัวร์ และบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น Klook ซึ่งเป็นแอปที่คนเดินทางต้องมี! Klook จะช่วยให้การวางแผนการเดินทางของคุณง่ายขึ้น เพียงแค่คลิกเดียวก็จองล่วงหน้าได้ทันที และไม่ต้องกังวลเมื่อถึงวันเดินทางอีกต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ล่วงหน้าด้วย เช่น ค่าที่พัก ค่าเข้าชมสถานที่ และอื่นๆ อีกด้วย แอปเดียวเอาอยู่แน่นอน!

1. ย่านโดทงโบริ Dotonbori

ย่านโดทงโบริเป็นที่ชื่นชอบของนักช้อปปิ้งในโอซาก้าอย่างแน่นอน ตั้งอยู่ตรงต่อเนื่องกับแม่น้ำโดทงโบริ และสัญลักษณ์ที่น่าจดจำของที่นี่คือป้ายไฟกูลิโกะ ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปคู่ด้วย

นอกจากการเป็นย่านการค้าแล้ว โดทงโบริยังเป็นสถานที่ที่คนมาร่วมทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มในช่วงค่ำคืนอีกด้วย เมื่อมื้อค่ำมาถึง ย่านนี้จะเต็มไปด้วยแสงสีสัน และแต่ละร้านจะแข่งกันโชว์อาหารด้วยความสวยงาม เราจะพบปูยักษ์ ซูชิยักษ์ ปลาหมึกยักษ์ และเกี๊ยวซ่ายักษ์ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักการกินอย่างแท้จริง กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างคือการล่องเรือ Tonbori River Cruise เพื่อชมวิวทั้งสองข้างของแม่น้ำในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและเป็นมิตร

การเดินทางไปย่านโดทงโบริ โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Nankai Honsen Line ลงสถานี Namba Station
• รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line, Yotsubashi Line, Sennichi Line ลงสถานี Osaka-Namba Station
• รถไฟใต้ดินสาย Sennichimae Line, Sakaisuji Line ลงสถานี Nihombashi Station

2. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

เราเริ่มด้วยการไปเยือนปราสาทโอซาก้า ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และเป็นหนึ่งใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น การก่อสร้างของมันใช้เวลายาวนานกว่า 16 ปีเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์

ปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ผู้บัญชาการกองกำลังสำคัญในสมัยเซ็นโกคุ ซึ่งเป็นคนที่ 2 ของประเทศญี่ปุ่น

สวนนิชิโนมารุเป็นจุดสำคัญที่ไม่ควรพลาดที่ปราสาทนี้ มีต้นซากุระปลูกมากกว่า 600 ต้น และจะบานออกดอกสวยงามในช่วงเดือนเมษายนทุกปี เป็นที่รู้จักในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้บริเวณรอบปราสาทดูสวยงามเหมือนในภาพฝัน จึงเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามอีกหนึ่งที่โอซาก้า

การเดินทางไปปราสาทโอซาก้า โดยรถไฟ

• รถไฟ Osaka Loop Line ลงสถานี Osakajo Koen Station
• รถไฟใต้ดิน Tanimachi Line ลงสถานี Tanimachi Yonchome Station
• รถไฟใต้ดิน Chuo Line ลงสถานี Tanimachi Yonchome Station

3. ตึกอูเมดะ สกาย (Umeda Sky Building)

มาต่อกันที่จุดชมวิวโอซาก้าที่สูงสุดถึง 173 เมตร ที่เราสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าได้ทั่วถึงที่ตึกอูเมดะ สกาย (Umeda Sky Building) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งไม่แพ้ใคร นอกจากจุดชมวิวที่สวยงามแล้ว เรายังสามารถนั่งชิลล์ที่ cafe SKY 40 เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขได้อีกด้วย

การเชื่อมต่อระหว่างฝั่งของตึกที่ชั้น 40 เป็นจุดชมวิวโอซาก้าแบบ 360 องศา และสามารถเดินชมได้รอบเลยอีกด้วย นอกจากนี้ ตึกยังมีโซนอื่นๆ เช่น โซนออฟฟิศ ร้านค้า และโรงภาพยนตร์ด้วย ใครที่ต้องการชมวิวสวยๆ ของเมืองโอซาก้า ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาที่นี่แน่นอน

การเดินทางไปตึกอูเมดะ สกาย โดยรถไฟ

• รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line, Hankyu Line ลงสถานี Umeda Station
• รถไฟใต้ดินสาย Tanimachi Line ลงสถานี Higashi-Umeda Station
• รถไฟใต้ดินสาย Yotsubashi Line ลงสถานี Nishi-Umeda Station
• รถไฟ Tokaido-Sanyo Line ลงสถานี Osaka Station
• รถไฟ Osaka Loop Line ลงสถานี Osaka Station

4. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan)

Universal Studios Japan เป็นสวนสนุกแห่งแรกในเอเชียที่ไม่ควรพลาดเลยสำหรับคนที่ชอบเที่ยวสวนสนุก ภายในสวนสนุกมีโซนหลายโซนที่มาพร้อมกับความสนุกสุดเหนือคาด แต่ที่ไม่ควรพลาดเป็น SUPER NINTENDO WORLD แน่นอน

สาวกเกม “นินเท็นโด” ก็ต้องชื่นชอบ เพราะจะได้สัมผัสโลกของมาริโอ้และเพื่อนๆ เหมือนเป็นการเดินเข้าไปในโลกของเกมจริงๆ ทั้งร้านค้า และร้านอาหารที่ตกแต่งตามธีมเกม มุมถ่ายรูปที่สวยงาม และของที่ระลึกที่น่ารัก ทำให้ไม่ควรพลาดเลย

และหากไม่อยากใช้เวลาต่อแถวรอซื้อตั๋วนานๆ ให้หมดสนุกก่อนเที่ยวแล้วล่ะก็ สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Klook  ขั้นตอนการจองก็ง่ายมากเพียงแค่เปิดแอป ค้นหา Universal Studios Japan เลือกแพ็กเกจบัตร Studio Pass ตามต้องการ เลือกวันที่ต้องการไปเที่ยว และชำระเงินก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นระบบก็จะส่งข้อมูลการจองมาทางอีเมลและในแอปพลิเคชันโดยทันที การจองง่ายและสะดวกมากๆ เพื่อการเที่ยวทริปนี้ที่ง่ายและสุขใจยิ่งขึ้น

การเดินทางไป Universal Studios Japan โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Sakurajima Line ลงสถานี Universal City Station
• รถไฟสาย JR Yumesaki Line ลงสถานี Universal City Station

5. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) ตั้งอยู่ที่ Tempozan Harbor Village บริเวณอ่าวโอซาก้า เป็นสถานที่ที่รวบรวมทั้งสัตว์น้ำและสัตว์บกมากถึง 30,000 ชีวิต ประมาณ 620 สายพันธุ์จากทั่วโลก และนำมาจัดแสดงในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกับธรรมชาติ ถือเป็นอควาเรียมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเอเชียเลยทีเดียว

ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์คือ Central Tank ซึ่งเป็นตู้อควาเรียมขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งมีลึกกว่า 9 เมตร มีฉลามวาฬขนาดยักษ์ว่ายวนเวียนอยู่ในตู้ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวตื่นเต้นมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ใต้น้ำขนาดยาวที่จำลองมาจากวงแหวนไฟ (Ring of Fire) ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่รอบมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสัตว์ต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนที่นี่ รับรองว่าจะได้รับความสนุกสนานและประทับใจไปกับสัตว์ทั้งบกและน้ำจากทั่วโลกแน่นอน

การเดินทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง โดยรถไฟ

• รถไฟใต้ดินสาย Chuo Line ลงสถานี Osakako Station

6. หมู่บ้านอเมริกา โอซาก้า (America Mura)

ใครจะเชื่อได้หรือไม่ว่า ในประเทศญี่ปุ่นก็มีหมู่บ้านอเมริกาอยู่ด้วย! มาเริ่มจากการเช็คอินกันที่หมู่บ้านอเมริกา โอซาก้า (America Mura) สถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมความฮิปของเหล่าวัยรุ่นโอซาก้าไว้ในที่เดียวกัน

ที่นี่เป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่นที่คล้ายกับชิบูย่าที่โตเกียวเลยทีเดียว ในอดีตหมู่บ้านอเมริกาเคยเป็นโกดังขายสินค้าและเสื้อผ้ามือสองที่นำเข้ามาจากอเมริกาเองนั่นเอง จึงได้รับชื่อเสียงมาตั้งแต่นั้น เช่นนี้ ทำให้หมู่บ้านอเมริกา โอซาก้า เป็นแหล่งรวมร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านแฟชั่นแนวสตรีท ร้านแบรนด์เนม สินค้านำเข้าจากอเมริกา และร้านไอเทมสุดชิคและไอเดียบรรเจิดมากมาย หากคุณเป็นคนฮิป ต้องมาเดินเล่นและช้อปที่นี่แน่นอน

การเดินทางไปหมู่บ้านอเมริกา โอซาก้า โดยรถไฟ

• รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line หรือสาย Nagahoritsurumiryokuchi ลงสถานี Shinsaibashi
• รถไฟ Kintetsu Namba Line หรือ Hanshin Namba Line ลงที่สถานี Osaka Namba Staton
• รถไฟใต้ดิน Yotsubashi Line ลงที่สถานี Yotsubashi Station

7. ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Shrine)

ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Shrine) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าสุมิโยชิในทั้งประเทศมีทั้งหมดกว่า 2,300 แห่ง

แลนด์มาร์คของที่นี่คือสะพานโค้งสีแดง Sorihashi Bridge ซึ่งเป็นจุดที่งดงามมากสำหรับการเดินทางและถ่ายรูป ที่นี่เราจะได้เห็นภาพของสะพานแดงที่สะท้อนในน้ำอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่า เมื่อข้ามสะพานนี้แล้ว จะพบเจอเพียงสิ่งที่เป็นมงคลและความสงบสุขต่อชีวิตต่อไป

การเดินทางไปศาลเจ้าสุมิโยชิ โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Hankaidenki-Hankai Line ลงสถานี Sumiyoshi Station
• รถไฟสาย Nankai Main Line ลงสถานี Sumiyoshi Taisha Station

8. พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Momofuku Ando Instant Ramen Museum)

สาวกคนรักมาม่า เพื่อนแท้ของเหล่ามนุษย์เงินเดือน มาเดินทางกันที่พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นเอกลักษณ์แห่งความสนุกสุดเหวี่ยง The Momofuku Ando Instant Ramen Museum หรือโมโมฟูกุ อันโด ชื่อตามผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร Nissin นั่นเอง

ภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีการจัดแสดงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการออกแบบถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เราเองสามารถออกแบบได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมี Workshop เพื่อทำเส้นบะหมี่ และมีถ้วยบะหมี่ให้ลองชิมเองด้วยนะ ที่โดดเด่นของที่นี่คือ อุโมงค์บะหมี่ถ้วยที่แสดงผลิตภัณฑ์ของ Nissin ในรูปแบบต่างๆ ทั้งบะหมี่ถ้วยและบะหมี่ซอง ที่เรียงอยู่ในกำแพงยาวๆ เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามและน่าสนใจมาก

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Hankyu-Takarazuka Line ลงสถานี Ikeda Station

9. ย่านชินเซไก (Shinsekai)

ผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศในเมืองในช่วงเวลากลางคืนคงห้ามพลาดที่จะมาเที่ยวในย่านชินเซไก (Shinsekai) ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองโอซาก้า เพราะที่นี่มีความเร้าใจแบบสุดๆ ในช่วงเวลากลางคืนและเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มที่ให้บริการขนมอร่อยๆ ที่สามารถชิมได้โดยไม่พลาดหาย นอกจากนี้ยังมีหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกตั้งอยู่ที่นี่เพื่อให้เราได้สนุกกับการเดินเล่นและถ่ายรูปด้วยกัน

การเดินทางไปย่านชินเซไก โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Osaka Loop Line ลงสถานี Shin-Imamiya Station
• รถไฟสาย Yamatoji Line ลงสถานี Shin-Imamiya Station
• รถไฟสาย Sakaisuji Line ลงสถานี Ebisucho Station
• รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line, Tanimachi Subway Lines ลงสถานี Dobutsuen-Mae Station

10. ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel)

ไม่จำเป็นต้องไปถึง London Eye ก็มาเช็คอินกันได้ที่ ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) ริมอ่าวโอซาก้า ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 112.5 เมตรเลยทีเดียว แน่นอนว่าตรงจุดนี้เป็นจุดที่เราจะสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าได้โดยรอบเลย

ความเป็นเอกลักษณ์ของชิงช้าสวรรค์ที่ต่างจากที่อื่นๆ คือ ตู้นั่งชิงช้าจะมีอยู่สองแบบให้เลือกขึ้น คือ แบบตู้ที่มีสีสันต่างๆ 7 สี และตู้กระจกใสที่ใสทั้งหมด ตั้งแต่พื้น เพดาน และเก้าอี้ ใครชอบความหวาดเสียวหน่อยๆ มาลองกันดูได้เลยนะ อีกทั้งที่นี่ยังตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) หลังจากเที่ยวอความเรียมเสร็จ ก่อนกลับแวะมานั่งชิงช้าสวรรค์ชมเมืองกันได้เลย

การเดินทางไปชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน โดยรถไฟ

• รถไฟใต้ดินสาย Chuo Line ลงสถานี Osakako Station

11. พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า (National Art Museum)

อย่าลืมแวะมาที่นี่! พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า (National Art Museum) เพราะที่นี่เป็นที่รวบรวมเอาศิลปะหลากหลายแขนงตั้งแต่อดีตจนถึงในปัจจุบัน รวมไปถึงนิทรรศการคอนเล็คชั่นพิเศษๆ มาจัดแสดงให้ดูกันนั่นเอง

บอกเลยว่า โดดเด่นตั้งแต่ตัวอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยโครงสร้างแบบเส้นโค้งที่ฟะซาดและวัสดุโลหะซึ่งได้ถูกออกแบบโดย เซเซาร์ เปลลี (Cesar Pelli) สถาปนิกชื่อดังระดับโลกชาวอาร์เจนตินา-อเมริกัน เลยทีเดียว

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Keihan Nakanoshima Line ลงสถานี Nakanoshima Station
• รถไฟใต้ดิน Yotsubashi Subway Line ลงสถานี Higobashi Station

12. เดนเดนทาวน์ (DENDEN Town)

ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) ในโตเกียวเป็นแหล่งรวมอนิเมะและของสะสมต่างๆ ชื่อดังของญี่ปุ่นที่เรามักจะนึกถึงกันมาก่อน แต่ในโอซาก้าก็มีแหล่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยที่เรียกว่า เดนเดนทาวน์ (DENDEN Town) ที่เป็นจุดหมายเด่นของคนรักการ์ตูนและอนิเมะ

เดนเดนทาวน์เป็นที่รวมร้านขายเกมส์ ร้านโมเดล ร้านมังงะ และอนิเมะในย่านนัมบะ (Namba) โดยร้านดังๆ และใหญ่ๆ ที่มีทั้งหมดอยู่ในที่เดียว มีจำนวนมากจนได้รับการยกย่องว่าเป็น “โอตะโร้ด” หรือถนนของโอตาคุเอง ถ้าคุณชื่นชอบการ์ตูน การ์ตูนอนิเมะ หรือของสะสมที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรพลาดการแวะเข้ามาที่นี่ สถานที่นี้ให้ความสุขและความตื่นเต้นมากกว่าแหล่งละลายทรัพย์!

การเดินทางไปเดนเดนทาวน์ โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Sakaisuji Line หรือ Hankaidenki-Hankai Line ลงสถานี Ebisucho Station
• Sennichimae Line หรือ Sakaisuji Line ลงสถานี Nipponbashi Station

13. ตลาดคุโรมง (Kuromon Market)

มาเพลิดเพลินกับการสำรวจตลาดสดที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยที่ตลาดคุโรมง (Kuromon Market) ที่เรียกได้ว่าเป็น “ครัวแห่งโอซาก้า” แน่นอนว่าที่นี่จะมีอาหารต่างๆ ที่สดใหม่และอร่อยมากมายให้เลือกเพลิดเพลินไปตามใจ เริ่มตั้งแต่ปลาหมึก ปลา ปู หอย และกุ้ง ที่มีจำหน่ายอยู่ทั้งหมด และไม่เหลือทุกอย่างก็จะมีราคาที่เป็นมิตรด้วย ถ้าใครอยากลองของอร่อยจากท้องถิ่น ไม่ควรพลาดการแวะเข้ามาที่นี่เลย!

การเดินทางไปตลาดคุโรมง โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Osaka Metro Sennichimae Line ลงสถานี Nippombashi Station
• Sennichimae Line หรือ Sakaisuji Line ลงสถานี Nipponbashi Station

14. วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple)

วัดชิเท็นโนจิ (Shitennoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านเท็นโนจิ เป็นวัดที่มีอายุเกือบ 1,500 ปีแล้ว แม้จะเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ แต่ตัววัดและอาคารต่างๆ ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่และปรับปรุงหลายครั้ง ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศสงบและร่มเย็น ถึงแม้ว่าจะตั้งอยู่ท่ามกลางตึกระฟ้า แต่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นไว้ได้ดี มีเจดีย์ 5 ชั้นที่งดงามและน่าสนใจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ภายในวัดที่สามารถเยี่ยมชมได้อีกด้วย ทุกอย่างทำให้วัดชิเท็นโนจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความประทับใจในทุกๆ ด้านนะ

การเดินทางไปวัดชิเทนโนจิ โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Tanimachi Line ลงที่สถานี Shitennojimae-yuhigaoka Station
• รถไฟ JR สาย Osaka Loop Line หรือ Yamatoji Line ลงสถานี Tennoji Station

15. ศาลเจ้าโอฮัทสึ เทนจิน (Ohatsu Tenjin Shrine)

ศาลเจ้าทสึยุเทน (Tsuyuten Shrine) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า ศาลเจ้าโอฮัทสึ เทนจิน (Ohatsu Tenjin Shrine) เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในเมืองโอซาก้าอย่างมาก โดยเป็นที่รู้จักมากับเรื่องราวของการขอพรในเรื่องความรักและความงาม เนื่องจากมีตำนานเรื่องราวของหญิงสาวชื่อ Ohatsu และชายที่ชื่อ Tokube ที่ไม่สมหวังในความรัก ซึ่งพวกเขาได้สิ้นสุดชีวิตที่ศาลเจ้าทสึยุเทนนี้ จากนั้นชาวบ้านจึงเริ่มเรียกสถานที่นี้ว่า “ศาลเจ้าโอฮัทสึ เทนจิน” ตามที่รู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง

การเดินทางไปศาลเจ้าโอฮัทสึ เทนจิน โดยรถไฟ

• รถไฟสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Umeda Station
• รถไฟสาย Yotsubashi Line ลงที่สถานี Nishi Umea Station
• รถไฟสาย Tanimaci Line ลงที่สถานี Higashi Umeda Station